ลูกอมหัวตะปู สวยๆ หลวงพ่อสงวน

เปิดเช่าบูชา



5,000


ร้าน : หลวงพ่อสงวน

โทร : 0815968699

Line :

Email :likhana_ch@hotmail.com

วันที่ : 2014-12-16

จำนวนผู้ชม : 21370








Share With Friends:

ลูกอมหัวตะปู สวยๆ ราคาเบาๆ... ...ขนาด 1.3 ซ.ม ลายหัวตะปูชัดๆคับ... รับประกันแท้ ตลอดชีวิต ลูก อมนี้ยุคแรก ครับ นี่แหละที่เป็นตำนานลูกอมมหาเสน่ห์ที่ใช้ขูดผง หรือแกว่งน้ำให้สาวกินติดกันจนเป็นที่ปราถนาของชายหญิงเจ้าชู้มากมาย ตอนนี้หายากครับ ของท่านใช้ดีจริง ต้องใช้เองถึงจะรู้ว่าพระของท่านดีอย่างไร ***ลูกอมนี่แหละครับที่เป็นที่มาของวลีเด็ดที่ว่า "กะหรี่แก่ๆยังหาผัวได้ หัวกระไดไม่แห้ง" แต่ใช้แล้วต้องรับผิดชอบนะครับ เพราะหลวงพ่อสงวนท่านแช่งไว้แรง โดนมานักต่อนักแล้วครับสำหรับผู้ที่แกว่งแล้วไม่รับผิดชอบ ลูกอมมหาเสน่ห์ เนื้อจัดมาก หลวงพ่อสงวน วัดไผ่พันมือ สุดยอดมหาเสน่ห์เมตตา กะหรี่แก่ๆ ยังหาผัวได้ ลูกอมมหาเสน่ห์ เนื้อจัดมาก หลวงพ่อสงวน วัดไผ่พันมือ สุดยอดมหาเสน่ห์เมตตา "กะหรี่แก่ๆ ยังหาผัวได้" ลูก ศิษย์ใกล้ชิดหลวงพ่อ เคยเล่าให้ผมฟังว่าหลวงพ่อสงวนท่านเก่งทางเมตตามหานิยม ขนาดที่ว่า “กะหรี่แก่ๆยังหาผัวได้หัวกระไดไม่แห้ง” นี่ผมเอาคำพูดของลูกศิษย์หลวงพ่อมาทั้งดุ้นเลยนะครับถ้าไม่สุภาพก็ต้องขอ อภัยด้วยและก็เป็นเรื่องจริง ที่ลูกศิษย์ชอบเอาลูกอมของหลวงพ่อสงวนไปแกว่งในน้ำ และเอาไปให้ผู้หญิงกิน เห็นเขาว่าได้ผลมานักต่อนักแล้ว เกจิอาจารย์ ยุคหลังปี 2500 ท่านเป็นเกจิที่ดังเเบบ ปากต่อปาก มีชื่อเสียงด้านเมตตามหานิยม ท่านสร้างวัตถุมงคลไว้หลายประเภท เช่น พระเนื้อดิน พระเนื้อผง เหรียญรูปเหมือน ภาพถ่าย ปลัดเนื้อไม้้ ปลัดเนื้อผง โดนเฉพาะอย่างยิ่งลูกอม ของท่านสร้างตำนานมาเป็นอันมาก ไม่ใช่ด้านเมตตาอย่างเดียว เรื่องเหนียวก็ไม่เป็นรองใครเหมือนกัน วัตถุมงคลของท่านนั้นทำเพื่อแจกอย่างเดียว ไม่ได้ให้เช่า หรือบูชา นามเดิม นายสงวน นามสกุล ร่มโพธิ์ชี ชาตะ เมื่อปี พ.ศ. 2460 พื้นเพเป็นชาวบ้าน อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี มรณภาพ วันที่14 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2536 สิริอายุ 76 ปี 30 พรรษา ประวัติโดยย่อ - เดิมสมัยเป็นฆราวาส หลวงพ่อสงวนมีนิสัยนักเลง เด็ดเดี่ยวกล้าหาญ ไม่ยอมคน ไม่กลัวใครรู้จักสนิมสนมกับเสือในสมัยก่อน อาทิ เสือมเหศวร เป็นต้น แต่อายุน้อยกว่า (ภายหลังจากที่ท่านบวช เสือมเหศวรยังได้ไปมาหาสู่ ช่วยสร้างวัดไผ่พันมือ ตลอดจนแม้ตอนหลวงพ่อสงวนมรณภาพ ก็ยังมาเป็นประธานในงานฌาปนกิจ) ช่วงปี 2470 ปลายๆ ทางราชการขณะนั้น มีนโยบายในการเร่งปราบปราม บรรดาชุมโจรต่างๆ หลวงพ่อสงวนเกรงว่าจะถูกทางราชการเพ่งเล็งว่าเป็นพรรคพวกบรรดาเสือในจังหวัด สุพรรณบุรี จึงได้เข้ามาสู่ร่มเงาพระศาสนา - บวชครั้งแรก เมื่อราวปี 2480-2483ที่วัดสังโฆษิตาราม โดยมีพระครูโฆสิตธรรมสาร หรือ หลวงพ่อครื้น อมโร เป็นพระอุปัชฌาย์ ศึกษาวิปัสสนากรรมฐาน อักขระเลขยันต์คาถาอาคม การลบผง จากพระอุปัชฌาย์จนเชี่ยวชาญ พร้อมๆกันนั้นได้ศึกษาพระปริยัติธรรมควบคู่ไปด้วยจนสอบได้นักธรรมเอก - ภายหลังได้ย้ายไปจำพรรษาที่วัดองครักษ์ อ.บางปลาม้า สุพรรณบุรี ราว 4-5 พรรษา ชาวบ้านเลื่อมใสในปฎิปทาต้องการให้หลวงพ่อสงวนเป็นเจ้าอาวาส แต่หลวงพ่อสงวนไม่ต้องการรับตำแหน่ง จึงได้ย้ายไปอยู่ที่วัดบ้านกร่าง อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี เมื่อประมาณปี 2490 เป็นศิษย์พระเมธีธรรมสาร( ท่านเจ้าคุณไสว) จนในที่สุดได้ลาสิขาบทเมื่อราวปี 2498 ที่วัดบ้านกร่างนี่เอง - ภายหลังลาสิกขา จึงได้แต่งงานมีครอบครัว โดยมีบุตรและธิดา รวม 2 คน ก่อนที่หลวงพ่อสงวนจะอุปสมบทอีกครั้ง ชีวิตฆราวาสของท่านก็คงถือศีล นุ่งขาวห่มขาวมาตลอด และในช่วงปี พ.ศ.2500-2504 ท่านก็อาศัยอยู่ที่วัดห้วยสุวรรณวนาราม อ.ศรีประจันต์ บวช ครั้งที่สองในราวปี 2505 ( อายุ 45 ปี) ที่วัดองครักษ์ สันนิษฐานกันว่า พระครูอุดมโชติวัตร (หลวงพ่ออรรถ) วัดองครักษ์ เป็นพระอุปัชฌาย์ การบวชครั้งนี้ หลวงพ่อสงวนจำพรรษาที่วัดทุ่งแฝก เมื่อจำพรรษาที่วัดทุ่งแฝก ได้ประมาณ 6 – 7 พรรษา หลวงพ่อสงวนได้เริ่มสร้างเครื่องราง เป็น ลูกอมเนื้อผง แจกแก่ชาวบ้าน แต่ส่วนใหญ่จะตกอยู่กับเด็กๆมากกว่า เพราะคราวแรกชาวบ้านไม่ค่อยชอบลูกอม ว่ากันว่า แรกๆชาวบ้านชอบพูดสนุกปากว่า “ลูกอมท่านยังกับลูกกระสุนยิงนก ไม่น่าแขวนน่าเอาไปยิงนกมากกว่า” ภายหลังมีเด็กที่แขวนลูกอมของท่าน ถูกหมากัดแต่ไม่เข้า จึงเริ่มมีชาวบ้านมาขอลูกอมท่าน เมื่อปี พ.ศ.2512 หลวงพ่อสงวนได้ย้ายมาจำพรรษาที่วัดไผ่พันมือ อ.ศรีประจันต์ ซึ่งขณะนั้นวัดไผ่พันมือเป็นป่าไผ่ มีต้นไม้ใหญ่มากมาย ต้องอาศัยชาวบ้านและพระเณรจากวัดองครักษ์ มาช่วยกันถากถางไม้ให้โล่งเตียน งูเหลือมก็มีมากมายขนาดที่ว่า งูชอบไปนอนขดในโบสถ์ของวัดซึ่งเป็นโบสถ์มหาอุตม์(มีทางเข้า-ออกเพียงทาง เดียว) โบสถ์นี้เป็นโบสถ์ที่สร้างในสมัยอยุธยา และโบสถ์นี้ยังคงใช้ถึงปัจจุบัน (ขณะนี้กำลังมีการสร้างโบสถ์ใหม่) โดยเริ่มแรกที่หลวงพ่อสงวนมานั้น ได้สร้างกุฏิไม้หลังเล็กๆขึ้น และจำพรรษาอยู่เพียงรูปเดียว ออกบิณฑบาตแต่ละทีต้องเดินทางไม่ต่ำกว่า 5-6 ก.ม และต้องตื่นแต่เช้าตรู่จึงจะทันชาวบ้านที่จะใส่บาตร - หลวงพ่อสงวน เป็นพระสมถะ แต่่พูดจาโผงผาง ชอบดุอยู่บ่อยๆ แต่ชาวบ้านกลับไม่ถือสา ว่ากันว่าถ้าโดนหลวงพ่อสงวนดุด่าว่าเมื่อไหร่เป็นได้โชคทุกครั้ง - หลวงพ่อสงวนเป็นพระที่ไม่เคยเอ่ยปากขอ ไม่เคยเรี่ยไร แต่แปลกที่ท่านมีลาภสักการะไม่เคยขาด ศิษย์ทราบว่าสร้างอะไรก็จะบอกต่อๆกันไป ในช่วงที่หลวงพ่อสงวน เริ่มสร้างหอสวดมนต์ มีเงินเพียง 600 บาท( สร้างหอสวดมนต์ ช่วงปี 2522 – 2524) นายจวง คหบดี ในแถบทุ่งแฝก เคยปวารณาขอถวาย 50,000 บาท ช่วยสร้างหอสวดมนต์ แต่เริ่มสร้างก็ไม่นำเงินมาถวายสักทีจนสร้างเสร็จถึงได้นำเงินมาถวาย หลวงพ่อสงวนก็ไม่ยอมรับว่า สร้างเสร็จแล้วไม่เอาแล้ว ไม่ว่านายจวงจะพูดอย่างไร หลวงพ่อสงวนก็ไม่ยอมรับเพราะสร้างเสร็จแล้ว จนนายจวงไม่ทราบจะทำอย่างไรเพราะท่านไม่ยอมรับเงินจึงขอสร้างกุฏิถวายวัด หลวงพ่อสงวนก็บอกว่า “ตามใจจะสร้างก็ตามใจ” นายจวงจึงได้สร้างกุฏิวัดหลังเล็กๆถวายวัด หลวงพ่อสงวน ท่านเป็นผู้ที่อุทิศตนบุกเบิกสร้างวัดไผ่พันมือ โดยร่วมกับหลวงพ่อแกละ (สหธรรมิก) สร้างถาวรวัตถุภายในวัด หลวงพ่อแกละท่านชำนาญด้านดูดวง ส่วนหลวงพ่อสงวนชำนาญด้านรดน้ำมนต์ สะเดาะเคราะห์ ปัจจัยที่ได้ท่านทั้งสองจะนำมาเป็นค่าใช้จ่ายภายในวัดทั้งสิ้น เรียกได้ว่า พระเณรในยุคนั้นไม่มีอดอยาก แม้ในคราวที่ฝนตกฟ้าร้องไม่อาจออกไปบิณฑบาต ก็มีข้าวปลาอาหารฉันไม่อด - เมื่อราวปี 2526 ได้มีการสร้างศาลาการเปรียญขึ้น ซึ่งในการสร้างศาลาครั้งนี้่ ได้มีการจัดสร้างเครื่องราง และพระเครื่องเนื้อผงเป็นจำนวนมาก เพื่อแจกญาติโยมเป็นที่ระลึกในการร่วมทำบุญสร้างศาลา อาจกล่าวได้ว่า เป็นช่วงเดียวที่หลวงพ่อสงวนออกวัตถุมงคลให้บูชา - ในการสร้างพระเครื่องของหลวงพ่อสงวนนั้น จะใช้้มวลสารผงอิธิเจเป็นหลัก โดยผงนี้่หลวงพ่อสงวนจะปั้นและลบด้วยตัวเอง ผสมมวลสารพระกรุต่างๆ และท่านจะดูแลการสร้างด้วยตัวเองโดยให้พระเณรในวัดช่วยกันปั้น และกดพิมพ์พระ วัตถุมงคลของท่านมีประสบการณ์มากมาย ทำให้มีลูกศิษย์นับถือท่านมาก - พระเครื่องท่านสร้างจากผงอิทธิเจ ซึ่งท่านเขียนและลบผงด้วยตัวท่านเองตลอดชีวิต ศิษย์และกรรมการในสมัยนั้นต่างทราบดี ว่างจากรับแขก หลวงพ่อสงวนจะเขียนและลบผงทั้งคืน โดยนำมวลสารมาปั้นเป็นแท่ง เขียนแล้วลบเป็นผง จากนั้นก็นำมาเขียนแล้วลบเป็นผง ทำแบบนี้ซ้ำๆ หลายต่อหลายครั้งจนสำเร็จ จึงนำผงที่ได้มาผสมกับมวลสารอื่นๆอาทิ ว่าน ดินกรุ เป็นต้น - ผงอิทธิเจ ของหลวงพ่อสงวนขึ้นชื่อมาก หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง จ.สิงห์บุรี เคยกล่าวว่า“อาจารย์สงวน ทำผงเก่ง” ในสมัยนั้นวัดพิกุลทอง มีงานพุทธาภิเษกพระเครื่องเมื่อใด หลวงพ่อแพจะส่งรถมารับหลวงพ่อสงวนอยู่เสมอๆ หลวงพ่อสงวนเองก็ได้กล่าวยกย่องให้ลูกๆหลานๆฟังเสมอว่า “หลวงพ่อแพ เป็นผู้มีบุญบารมีมาก ผ่านไปสิงห์บุรีให้ไปกราบท่านให้ได้นะ”

 

การจัดส่ง & รับประกัน

  • จัดส่งภายใน 1-3 วัน
  • ค่าจัดส่งตามตกลง
  • คืนสินค้าภายใน 7 วัน

ข้อมูล:

 

หลวงพ่อสงวน

 

ขนาด: การเก็บรักษา:

  • ควรเก็บในที่แห้ง เก็บในที่จัดวาง เพราะพระมีขนาดเล็กอาจสูญหายได้
พระแท้ ดอทคอม
   

ยังไม่มี ร่วมแสดงควมคิดเห็น