จังหวัดพระนครศรีอยุธยาหรือกรุงเก่า ในสมัยที่เป็นราชธานีของไทยนั้นเจริญรุ่งเรืองมาก มีการติดต่อค้าขายกับต่างประเทศ มีการสร้างและบูรณะศาสนสถานและศาสนวัตถุต่างๆมากมาย ก่อนที่จะเสียกรุงแก่พม่า จนเมื่อครั้งเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 พวกพม่าได้เผาทำลายโบราณสถาน โบราณวัตถุ ศาสนสถาน และศาสนวัตถุจนเสียหายยับเยิน เพียงแค่ต้องการเงินทองและทรัพย์สินมีค่าเท่านั้น “พระมงคลบพิตร” ที่จะกล่าวถึงในฉบับนี้ก็เช่นกันครับผม “พระมงคลบพิตร” วัดพระศรีสรรเพชญ์ จ.พระนครศรีอยุธยา ราชธานีเก่าของไทย นับเป็นพระพุทธปฏิมากรที่หุ้มด้วยทองสำริดองค์ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ประทับนั่ง ปางมารวิชัย ในพระอิริยาบถขัดสมาธิ พระหัตถ์ซ้ายวางหงายบนพระเพลา พระหัตถ์ขวาคว่ำบนพระชานุ พระองคุลีชี้ลงพระธรณี ฐานขององค์พระทำเป็นรูปยักษ์มารและพระแม่ธรณีบีบมวยผม หน้าตักกว้าง 9.55 เมตร ความสูงจากทับเกษตรถึงพระเมาลี 12.45 เมตร พระกรรณยาวข้างละ 1.81 เมตร พระเนตรยาวข้างละ 1.05 เมตร รวมฐานปูนที่ก่อจากพื้นพระวิหารขึ้นมาถึงฐานองค์พระกับองค์พระแล้วมีความสูงถึง 16.95 เมตร ปัจจุบันประดิษฐานอยู่ในพระวิหารข้างกำแพงวัดพระศรีสรรเพชญ์ ด้านใต้ของพระราชวังโบราณกรุงศรีอยุธยา อำเภอพระนครศรีอยุธยา จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์ตามพระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยา พงศาวดารฉบับวันวลิต ซึ่งเป็นหลักฐานของชาวต่างชาติที่เข้ามาในกรุงศรีอยุธยา ตำนานกรุงเก่า และวีรกษัตริย์กรุงศรีอยุธยา สรุปความว่า “พระมงคลบพิตรสร้างขึ้นในราวพุทธศตวรรษที่ 21 ในสมัยสมเด็จพระชัยราชา กษัตริย์ที่ทรงพระปรีชาสามารถ และสร้างความรุ่งเรืองแก่ประเทศมากมาย อาทิ ด้านศาสนา พระองค์โปรดฯ ให้สร้างพระมงคลบพิตรเพื่อเป็นพระประธานวัดชีเชียง เดิมจึงใช้ชื่อว่าพระชีเชียง” ส่วนสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงสันนิษฐานว่า “พระมงคลบพิตร” นี้ สมเด็จพระเอกาทศรถทรงสร้างเพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนเรศวรมหาราช อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากกรุงศรีอยุธยาเสียแก่พม่าแล้ว วัดวาอารามต่างๆ ได้ถูกพม่าเผาทำลายแทบทั้งสิ้น รวมทั้งพระวิหารพระมงคลบพิตรด้วย จากนั้นถูกปล่อยรกร้างมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2310 จนกระทั่งปี พ.ศ.2460 พระยาโบราณราชธานินทร์ (พร เดชะคุปต์) เทศาภิบาลมณฑลอยุธยาในสมัยนั้น ได้ทำการบูรณะปฏิสังขรณ์องค์พระ ซ่อมพระเมาลี พระกรข้างขวา และซ่อมแซมพระวิหาร ในการซ่อมครั้งนี้ได้พระพุทธรูปจำนวนหนึ่งอยู่ในพระกรข้างขวาด้วย ปัจจุบันเก็บรักษาไว้ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเจ้าสามพระยา จ.พระนครศรีอยุธยา ท่านยังได้จัดสร้างเหรียญพระพุทธขึ้น เพื่อแจกเป็นที่ระลึกแก่ผู้ศรัทธาร่วมสมทบทุนในการบูรณะปฏิสังขรณ์ เรียกว่า “เหรียญปั๊มรูปเหมือนพระมงคลบพิตร” โดยสร้างเป็น 2 เนื้อ คือเนื้อเงินและเนื้อ องแดง ลักษณะเป็นเหรียญรูปไข่ หูเชื่อม ยกขอบเป็นเส้นลวดนูนทั้งหน้า-หลัง ด้านหน้า ตรงกลางเป็นรูปจำลองพระมงคลบพิตร ประทับเหนือแท่นอาสนะ โดยรอบมีอักษรไทยจารึกว่า “พระปฏิมากร มงคลบพิตร์ ศรีอยุธยา” ส่วนด้านหลัง ตรงกลางเป็น “ยันต์เฑาะว์” บนพื้นเรียบยกขอบ เหรียญปั๊มรูปเหมือนพระมงคลบพิตร ปี 2460 นับเป็นเหรียญรูปเหมือนพระปฏิมากรมงคลบพิตรรุ่นแรก และยังได้รับการปลุกเสกจากพระเกจิอาจารย์ผู้มีชื่อเสียงโด่งดังในยุคนั้นทั้งสิ้น อาทิ หลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติการาม หลวงพ่ออ่ำ วัดวงฆ้อง พระญาณไตรโลกนาถ (ฉาย) วัดพนัญเชิง ฯลฯ จึงนับว่าเป็นเหรียญพระพุทธที่ทรงพุทธคุณและทรงคุณค่าเป็นที่นิยมสะสมเหรียญหนึ่งของเมืองไทย (ที่มา อ.ราม วัชระประดิษฐ์)

การจัดส่ง & รับประกัน

• จัดส่งภายใน 1-3 วัน
• ค่าจัดส่งตามตกลง
• คืนสินค้าภายใน 7 วัน